ช่วงต้นเดือน มิถุนายน 2565 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U23 ในปี 2022 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน จะเริ่มระเบิดศึกดวลแข้งกัน โดย ทีมชาติไทย ยังคงผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง ซึ่งบรรดานักเตะที่ถูกเลือกติดทัพ “ช้างศึก” มาในครั้งนีมีหลายคนที่มีดีกรีถึงระดับค้าแข้งในยุโรป ผลงานของไทยในระดับทวีปเอเชียจะไปได้ไกลแค่ไหน ทัวร์นี้คือบทพิสูจน์ ติดตามเรื่องราวบอลไทยได้ที่ ballthai
มองย้อนผลงาน ทีมชาติไทย ในศึกชิงแชมป์เอเชีย U23
ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จัดแข่งขันขึ้นโดยสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา ผลงานของทีมชาติไทย มีดังนี้
2013 ตกรอบคัดเลือก
ครั้งแรกที่เข้าร่วมทัพช้างศึกอยู่ภายใต้การนำทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง ที่ปัจจุบันรับหน้าที่คุมทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งฟอร์มการเล่นในทัวร์นี้น่าผิดหวังอย่างแรง เก็บได้เพียง 7 คะแนนจาก 5 เกมที่ลงเล่น ไม่ผ่านแม้แต่รอบคัดเลือก โดยเกมที่เสียหายมากที่สุดคือการแพ้ให้กับทีมชาติ สปป. ลาว 1-0
2016 ตกรอบแบบน่าเจ็บใจ
ครั้งนี้ทีมอยู่ภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งว่ากันว่าเป็นหนึ่งในรุ่น U-23 ที่ดีที่สุดของไทย โดยผลงานก่อนหน้ามีทั้งคว้าแชมป์ซีเกมส์, แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ, คว้าอันดับ 4 ฟุตบอลชายเอเชียนเกมส์ โดยผู้เล่นชุดดังกล่าวมีแข้งความหวังอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ นำทัพ
ทัพ “ช้างศึก” สามารถทะลุผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายของฟุตบอลชมป์เอเชีย U-23 ที่ประเทศกาตาร์ได้สำเร็จ ก่อนจะถูกจับไปอยู่ในกลุ้มเดียวกับ ทีมชาติญี่ปุ่น , ซาอุดิอาระเบีย และ เกาหลีเหนือ
สองเกมแรกทีมชาติไทยเก็บมาได้เพียงคะแนนเดียว หลังทำผลงานเสมอกับ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย 1-1 และแพ้ให้กับทีมชาติญี่ปุ่น 4-0 แต่ความหวังผ่านเข้ารอบก็ยังไม่หมด หากเกมสุดท้ายเอาชนะทีมชาติเกาหลีเหนือได้ ก็จะทำคะแนนพลิกกลับมาเพียงพอที่จะผ่านเข้ารอบทันที แต่สุดท้ายความฝันที่วาดเอาไว้ก็ไม่เป็นจริง เกมกับ เกาหลีเหนือ จบลงด้วยการเสมอกันไป 2-2 ทัพ ช้างศึก จึงต้องหยุดป้ายไว้เพียงรอบเก็บคะแนน
2018 ไม่มีแม้คะแนนเดียว
เป็นอีกครั้งที่ “ช้างศึกจูเนียร์” เข้าไปถึงศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย โดยครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศจีน ซึ่งกุนซือที่พาทีมผ่านเข้าไปคือ วรวุธ ศรีมะฆะ อย่างไรก็ตาม “โค้ชโย่ง” ตันสินใจลาออกหลังพาทีมเป็นแขมป์ ซีเกมส์ 2017 หน้าที่คุมทัพจึงตกไปเป็นของ โซรัน ยานโควิช
ทัวร์นาเมนต์นี้ผลงานของทีมชาติไทยชุดเล็กน่าผิดหวังสุดๆ จบรอบเก็บคะแนนแบบไม่มีแม้แต้มเดียวติดมือ แพ้รวดตลอด 3 เกมที่ลงสนามให้กับ ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ และ ปาเลสไตน์ ตามลำดับ
2020 ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์
ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลชิงแชมปฺเอเชียรุ่น u-23 ในปี 2020 แต่ทีมชาติไทยเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าภาพเพื่อผ่านเข้ารอบสุดท้าย ขอลงเล่นในรอบคัดเลือกด้วย ซึ่งในรอบคัดเลือกรับหน้าที่คุมทัพโดย อเล็กซานเดร กาม่า ทำผลงานเก็บ 6 คะแนนจาก 3 นัด ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง
แต่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มทีมชาติไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อชุดใหญ่ได้กุนซือ อากิระ นิชิโนะ เข้ามาคุมทัพ ซึ่งเฮดโค๊ชชาวญี่ปุ่นรับหน้าที่คุมทั้ง ทีมชาติชุดใหญ่ และ ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งนายใหญ่คนใหม่ก็สร้างผลงานที่ดีที่สุดให้กับ “ช้างศึกจูเนียร์” รอบเก็บคะแนนคว้ามาได้ 4 แต้มจากผลงาน ชนะ บาห์เรน 5-0, แพ้ ออสเตรเลีย 1-2 และเสมอกับ อิรัก 1-1 แต้มที่เก็บมาได้ส่งผลให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์รายการนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
แต่ก็ต้องมาจอดป้ายในรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังพ่ายให้กับ ซาอุดิอาระเบีย แบบน่าเจ็บใจจากจังหวะที่มีโดนลูกจุดโทษแบบน่ากังขาช่วงท้ายเกม
ทีมชาติไทย ในศึกชิงแชมป์เอเชีย U23 ครั้งนี้(2022)
มาถึงช่วงยุคปัจจุบันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U23 รอบสุดท้ายที่ประเทศ อุซเบกิสถาน กำลังจะเริ่มเปิดศึกกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทัพช้างศึกรุ่นเล็ก ก็ยังทำผลงานได้ตามมาตรฐานผ่านเข้ารอบมาได้สำเร็จ โดยจะลงเล่นในกลุ่ม ซี อยู่ร่วมสายกับทีมชาติ เกาหลีใต้, เวียดนาม และ มาเลเซีย ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ
สำหรับนักเตะชุดนี้ผสมกันระหว่างผู้เล่นจากสโมสรชั้นนำของไทยลีก กับนักเตะจากต่างประเทศ โดบมีการเรียกตัวบรรดาผู้เล่นลูกครึ่งที่ค้าแข้งอยู่ทั่วยุโรปบินมาช่วยทีมค่อนข้างเยอะ ทั้ง นิโคลัส เก่งเขตกิจ มิคเกลสัน, โจนาธาร เข็มดี, ยานนิค นุสส์บอม, เบนจามิน เดวิส เป็นต้น
ด้วยคุณภาพของผู้เล่นจากรายชื่อที่ประกาศออกมาถือว่ามีดีพอที่จะผ่านเข้าไปถึงรอบน็อคเอาท์ได้อีกครั้ง เพื่อนร่วมกลุ่มก็คุ้นเคยกันดีเป็นทีมในแถบอาเซียนทั้ง เวียดนาม และมาเลเซีย จะมีก็เพียง เกาหลีใต้ ที่เป็นงานหนักเกินมือทีมเดียวเท่านั้น
ครั้งนี้เป็นอีกบทพิสูจน์ว่าบรรดาแข้งที่ออกไปเล่นนอกประเทศจะนำความสำเร็จมาสู่ชาติไทยได้หรือไม่ ดูจากรายชื่อเพื่อนร่วมกลุ่มแล้ว หากจอดป้ายเพียงแค่รอบเก็บคะแนนก็พูดได้เต็มปากเลยว่าน่าผิดหวัง
