สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศร่วมมือกับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วางแผนสร้างเยาวชนทีมชาติไทยลุยฟุตบอลโลก U20 ภายในปี 2025 โดยมีแนวทางที่คล้ายกับการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง BLUE LOCK
Blue Lock อะไร?
“บลูล็อก” (Blue Lock) เป็นการ์ตูนแนวฟุตบอลของประเทศญี่ปุ่น ที่มีเนิ้อเรือวงเกี่ยวกับการเอานักฟุตบอลดาวรุ่งตำแหน่งกองหน้าฝีเท้าดี จำนวน 300 คน จากทั่วประเทศญี่ปุ่น มาอยู่หอพักร่วมกันและแข่งขันกัน โดยจะมีการทดสอบในรูปแบบต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป และแต่ละการทดสอบก็จะมีการคัดคนออกจนเหลือเพียงแค่ 1 คน เป็นคนที่เก่งที่สุด และจะกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติญี่ปุ่น

บุรีรัมย์ BLUE LOCK
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการแถลงการณ์ข่าวใหญ่เรื่องที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับสโมสรบุรีรัมย์ ในโปรเจ็กต์พิเศษเพื่อสร้างทีมชาติไทยรุ่นใหม่ขึ้นมา ตั้งเป้า 3 ปี ขึ้น Top 10 เอเชีย และไปฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในปี 2025
“สมาคมฯ และ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำข้อตกลงร่วมกัน ที่จะสร้างทีมชาติไทย เพื่อเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ปี 2025 โดย มีเป้าหมายที่จะเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของเอเชีย โดยมี ชนน์ชนก ชิดชอบ เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดนี้ และ มิลอส เวเลบิต กุนซือชาวเซอร์เบีย เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน”
ทีมชาติไทย ชุดนี้ จะถูกสร้างขึ้นมา ด้วยแนวคิดการทำงานใหม่โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน คัดนักฟุตบอลที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี (เกิดปี 2548) มาเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันที่บุรัรัมย์ต่อเนื่อง 3 ปี ทุกคนที่ถูกคัดเลือกมา บุรีรัมย์จะออกค่าใช้จ่าย, เรียนหนังสือที่บุรีรัมย์, ค่ากินอยู่ ฯลฯ มีหน้าที่เรียนหนังสือ ฝึกฟุตบอลเพื่อสร้างความสุขให้คนไทยในการแข่งขันรายการต่าง ๆ

ส่วนขั้นตอนในการคัดเลือก ทีมชาติ u-20 ทางบุรีรัมย์ก็จะเป็นคนเลือกเอง จะคัดนักเตะอายุ 18 ปีที่เก่งที่สุดในประเทศจำนวน 200 คน มาอยู่ร่วมกัน จากนั้นคัดรอบแรก ตัดออกให้เหลือ 100 คน
จากนั้นเอา 100 คน มาฝึกหนัก กินนอนด้วยกัน 2 สัปดาห์ และคัดออกไปเรื่อยๆ จนเหลือ 20 คนสุดท้าย เป็นผู้เล่นทีมชาติชุด u-20
หลังจากได้ 20 คนแล้ว จะมีการประเมินทุก 3 เดือน ว่าฝีเท้าถึงเกณฑ์หรือไม่ ถ้าใครมีมาตรฐานดร็อป ก็จะถูกตัดทิ้ง แล้วไปเรียกตัวที่สแตนด์บายขึ้นมาเสียบแทน นี่เป็นวิธีการที่จะทำให้นักเตะกระตือรือร้นตลอดเวลา
สำหรับการคัดตัวรอบแรกจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 20-25 ธันวาคม 2565 ที่แคมป์เก็บตัวในสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ระหว่างปี 2023 จะทำการคัดไปเรื่อยๆ ให้เหลือ 20 คนสุดท้ายในที่สุด และ 20 คนที่ว่านี้ จะกินนอนอยู่ด้วยกัน บุรีรัมย์ได้วางโปรแกรมแข่งไว้หมดแล้ว โดยดีลกับสโมสรในไทยลีก ให้ส่งทีม B มาปะทะกับทีม บุรีรัมย์ Blue Lock เป็นประจำทุกสัปดาห์ ให้มีเกมการแข่งตลอด
ในปี 2024 เด็กๆ กลุ่มนี้จะมีโปรแกรมลงแข่ง ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก เป้าหมายคือต้องเข้ารอบให้ได้
ในปี 2025 เด็กๆ กลุ่มนี้จะมีโปรแกรม ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย และถ้าทำผลงานได้ดี ก็อาจได้โควต้าฟุตบอลโลก u-20 ที่จัดในปีเดียวกันด้วยก็ได้
ดังนั้นโปรเจกต์นี้มีเป้าหมายว่าในปี 2024 ที่จะมีการคัดเลือก AFC U19 ต้องเข้ารอบ 8 ทีม คือเป็นท็อป 10 เอเชีย และไปฟุตบอลโลก U20 ปี 2025
แน่นอนว่าจากแนวคิดนี้มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นสโมสรคู่แข่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเวทีไทยลีกที่จะต้องเสียสละแข้งพรสวรรค์วัย 18 ปีของสโมสรมาให้เข้าแคมป์ฝึกซ้อม แทนที่จะลงสนามช่วยต้นสังกัดตนเอง แต่ในเมื่อสมาคมฟุตบอลตัดสินใจร่วมหัวจมท้ายกับทีม “ปราสาทสายฟ้า” ไปแล้วจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามไปก่อน
ต้องมารอดูกันว่าแนวคิดแปลกใหม่ครั้งนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลไทย และยกระดับให้ทีมชาติไทยพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นได้ หรือจะเป็นเพียงโปรเจกต์ที่ไม่สำเร็จเสียเวลาไปฟรีๆ อีก 3 ปีต่อจากนี้เราค่อยมาดูกัน