เลื่อนโปรแกรมไทยลีกเพื่อ “ซีเกมส์” ดีจริงหรือ?

เมื่อสมาคมฟุตบอลเห็นว่าการเลื่อนโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศเปิดทางให้บอลระดับต่ำกว่า 23 ปีอย่าง ซีเกมส์ ที่ไม่ได้รับรองจากทางฟีฟ่า เพื่อความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ(จริงหรือ) แต่กลับเกิดกระแสคัดค้านจากหลายฝ่าย

หลังจากที่ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ออกมาประกาศเตรียมยกเลิกการแข่งขันช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือนมีนาคม 2566 ของทีมชาติไทย เพื่อขยับการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2022-23 ให้จบเร็วขึ้น จากเดิมในเดือนพฤษภาคม เป็นวันที่ 22 เมษายน 2566

นอกจากนี้ยังมีการขยับโปรแกรมไทยลีกมาแข่งในช่วงฟีฟ่าเดย์ 3 นัด โดยเพิ่มเกมกลางสัปดาห์ 2 นัด คือ วันที่ 14-16 มีนาคม 2566 และวันที่ 28-30 มีนาคม 2566 โดยทางฝ่ายจัดการแข่งขัน และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้เหตุผลการเลื่อนโปรแกรมให้ปิดฤดูกาลเร็วขึ้น เพื่อหลีกทางให้กับนักเตะทีมชาติ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆ เช่นกีฬาซีเกมส์กลางปีนี้ ที่กระเทศกัมพูชา

ปรากฏว่าการประกาศขยับโปรแกรมการแข่งขัน และการเอาไทยลีกมาแข่งขันในช่วงฟีฟ่า เดย์นั้น ก็มีหลายสโมสรที่ออกมาคัดค้านทั้งสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด , ราชบุรี เอฟซี , พีที ประจวบ เอฟซี , บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ซีเกมส์ เลื่อนเพื่อใคร?

อย่างที่ทราบการว่าที่ผ่านมาทัพช้างศึกเป็นเบอร์หนึ่งของย่านอาเซียน ทว่าในการแข่งขันซีเกมส์ช่วง 2 ปีหลังสุดทีมฟุตบอลชายไทยกลับไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้เลย ทำให้มีเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากประชาชน

ซึ่งก่อนหน้านี้มีแรงกดดันของคนจากรัฐบาลว่า ซีเกมส์ ที่กำลังจะถึงนี้สมาคมฟุตบอลต้องคว้าเหรียญทองเท่านั้น หากทำไม่สำเร็จจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ดังนั้นจากข้อที่บอกว่าเพื่อคนไทยแล้ว ผู้ใหญ่ในวงการเมืองยังมองว่าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์เป็นเครื่องมือในการสร้างความนิยมของตัวเองอีกด้วย

“ผมเข้าใจความคาดหวังของหลายฝ่ายที่มีต่อเหรียญทองของทีมฟุตบอลไทยในซีเกมส์”

“มันคือเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ”

“และความคาดหวังนั้นเองคือสิ่งที่ต้องแบกอยู่บนบ่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และนั่นคือแรงกดดันที่มีต่อผู้จัดการทีมชาติไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

“และความคาดหวังนั้นเอง คือแรงกดดันที่มีต่อผู้จัดการทีมชาติไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ความคาดหวังต่อเหรียญทองเหรียญนี้ (ของใครบางคน) ยิ่งใหญ่ราวกับได้ไปแข่งฟุตบอลโลก” กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริหารบริษัทไทยลีก

ทำไมถึงควรไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนโปรแกรมครั้งนี้

หลังมีประกาศออกมา มีหลายสโมสรหลายทีมในไทยลีกออกแถลงการณ์คัดค้าน โดยมองว่าที่ผ่านมาไทยลีกได้สนับสนุนให้มีผู้เล่นอาเซียนเพิ่มขึ้นในการแข่งขันไทยลีก เพื่อพัฒนาลีกบ้านเราให้เป็นที่นิยม ในภูมิภาคอาเซียน โดยผู้เล่นเหล่านี้มีเงื่อนไขต้องเล่นทีมชาติมาก่อน

ดังนั้น ช่วงฟีฟ่าเดย์ ผู้เล่นอาเซียนต้องกลับไปเล่นให้ทีมชาติของตัวเอง เพราะแต่ละประเทศมีวิสัยทัศน์และต้องการเก็บคะแนนฟีฟ่าแรงค์กิ้ง แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันไทย กลับให้มีการแข่งขันในช่วงเวลาฟีฟ่าเดย์ต่อเนื่อง

ทำให้ผู้เล่นอาเซียนที่กลับไปเล่นให้ทีมชาติของตัวเองไม่สามารถลงเล่นให้กับแต่ละสโมสรของไทยในช่วงฟีฟ่าเดย์ จึงเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันและสวนทางกับนโยบายของลีกชั้นนำของอาเซียนโดยสิ้นเชิง อีกทั้งยังสูญเสียโอกาสที่ประเทศไทยจะเก็บคะแนน จากการแข่งขันช่วงฟีฟ่าเดย์

ควรถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรมองข้ามทัวร์นาเมนต์ระดับอายุไม่เกิน 23 ปี ที่แข่งกันเองในอาเซียนที่ไม่ได้มีผลกับคะแนนฟีฟ่าแร้งกิ้ง ซีเกมส์ควรเป็นสังเวียนให้โอกาสดาวรุ่งที่มีแวว เราจะได้ประโยชน์มากกว่าไหมหากมีนักเตะหน้าใหม่แจ้งเกิดได้อีก 3-4 คนจากเวทีนี้?

ฟุตบอลไทยควรจัดลำดับความสำคัญเสียใหม่ เพื่อจะก้าวข้ามระดับภูมิภาคไปสู่ระดับเอเชีย และก้าวไปเวทีระดับโลกกันจริงๆ เสียที

“ความสำเร็จของเราจะไม่มีวันยิ่งใหญ่ขึ้นได้ ถ้าเรายังยึดติดกับความสำเร็จเล็กๆ แบบเดิม”