การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2022 หรือ เอเชียน คัพ U-23 ทีมชาติไทย จอดป้ายแค่เพียงรอบแบ่งกลุ่มอีกครั้ง สาเหตุอะไรที่ทำให้ทัพช้างศึกต้องพบความผิดหวัง วันนี้ ballthai จะพาไปชำแหละกันครับ
ก่อนลงสนามรอบสุดท้าย “”ช้างศึกจูเนียร์” โดนจับฉลากให้เข้าไปอยูในกลุ่มซี ร่วมกับทีมชาติ เกาหลีใต้, เวียดนาม และ มาเลยเซีย ซึ่งจากรายชื่อเพื่อนร่วมกลุ่มที่ออกมาไม่ได้ยากเกินกำลังที่จะพสตัวเองผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ มีเพียง เกาหลีใต้ แชมป์เก่า เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่ศักยภาพเหนือกว่า ทว่าผลงานจาก 3 เกมที่ลงเล่นของไทย ชนะ 1 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 1 เกม เก็บมาได้ 4 คะแนน จบเป็นอันดับที่ 3 ของกลุ่ม ต้องเก็บกระเป๋ากลับจากประเทศอุซเบกิสถานอย่างรวดเร็ว เป็นอีกครั้งที่ทีมชาติไทยชุด U23 ไม่ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ อะไรคือเหตุผล?
ความล้มเหลวเรื่องการจัดการของสมาคมฟุตบอล
ปัญหาที่อยู่คู่กับฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน สำหรับการจัดการของสมาคมฟุตบอล โดยก่อนเริ่มทัวนาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย ทีมชุดยู-23 มีโปรแกรมต้องลงทำศึกซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนามก่อน ซึ่งทางสมาคมเลือกที่จะย้ายโปรแกรมแข่งขันบอลลีกมรปีะเทศ เพื่อหลีกทางให้กับการแข่งขันซีเกมส์ ส่งผลให้โปรแกรมที่โดนเลื่อนออกมาไปกระทบกับการเตรียมทีมก่อนลงทำศึก เอเชียน คัพ ทันที
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าก่อนลงทำศึกชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้าย ทีมชาติไทย ชุดนี้เพิ่งมีเวลาเตรียมทีมลงซ้อมด้วยกันแค่เพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่พอที่จะทำให้ทีมชุดนี้ซึมซับแนวทางการเล่นของ “โค๊ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ได้ทัน และแทนทีสมาคมจะจัดให้ทีมมีความต่อเนื่องใน ซีเกมส์ ที่ทีมชุดนี้ลงเล่นก่อนหน้านี้กลับให้ มาโน่ โพลกิ้ง คุมทัพ
ด้วยการจัดการที่เรียงลำดับความสำคัญผิดพลาด จึงไม่ค่อยน่าแปลกใจที่ฟอร์มการเล่นในสนามของนักเตะชุดนี้ดูไม่มีความพร้อม หรือแสดงให้เห็นถึงความเป็นทีมอยู่เลย สำหรับเรื่องการจัดการของสมาคมฟุตบอลไทยคงต้องกลับมาคุยกันเพื่อหาข้อผิดพลาด เพราะหากยังดันทุลังทำแบบเดิมๆต่อไป ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คงเป็นอย่างที่เห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้
นักเตะ U-23 ไม่พร้อมลงเล่น เอเชียน คัพ
เหตุผลต่อเนื่องมาจากการวางโปรแกรมที่ไม่รอบคอบ ส่งผลให้สภาพนักเตะชุดนี้ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบนี้ มีอาการออกให้เห็นว่าร่างกายกรอบเต็มที่ บรรดาแข้งตัวเก่งเพิ่งจะบินมาช่วยทีมชาติหลังเสร็จภารกิจกับสโมสรได้เพียงวันเดียว ด้านผู้เล่นที่ไม่ได้มีภารกิจกับสโมสรก็ล้ามาจาก ซีเกมส์ ดังนั้นนักเตะตัวหลักเหมือนแทบไม่ได้พักก่อนลงสนาม 3 เกมติดต่อกัน
เห็นได้ชัดจากเกมนัดสุดท้ายที่เจอกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ซึ่งมีผลสำคัญมากกับโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบ ทีมชาติไทย กลับไม่เหลือผู้เล่นตัวเก่งในรายชื่อ 11 ตัวจริงเลย ทั้ง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และ เบนจามิน เดวิส ที่สภาพร่างกายล้าสุดๆจึงต้องเลือกพักไว้ข้างสนาม ก่อนจะโดนส่งลงมาเล่นในภายหลัง และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวยิงตัวความหวังที่ 2 เกมแรกซัดไปถึง 3 ประตู เกมนัดสุดท้ายก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนไม่มีชื่อ
ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ยังมีผู้เล่นที่เจ็บจนต้องถอนตัวไปก่อนทั้ง อิรฟาน ดอเลาะ , ชนภัช บัวพันธ์ และวิลเลียม ไวเดอร์เฌอ

ฝีมือของโค๊ช?
ก่อนจะเริ่มทัวร์นาเมนต์ก็เริ่มมีความกังวลจากแฟนบอลไทยเรื่องฝีมือของโคํชที่เลือกมาคุมทีมชุดนี้ “โค๊ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ มีผลงานที่โดดเด่นเคยพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ปี 2017 แต่หลังจากนั้นผลงานการคุมทีมก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ ทั้งพาทีมตกรอบแรกฟุตบอลชาย เอเชียนเกมส์, ทำผลงานไม่ดีกับ เกษตรศาสตร์ เอฟซี และคุมทีม ศรีสะเกษ เอฟซี ตกชั้นสู่ไทยลีก 3 จนว่างงานมาตลอด ก่อนที่จะโดนดึงตัวมาคุมทีมไทย ยู-23
คำถามที่เกิดขึ้นในหัวคือ “โค๊ชโย่ง” มีดีพอทำหน้าที่ในระดับทวีปเอเชียหรือไม่ ซึ่งตลอด 3 เกมที่ลงเล่นก็ถือเป็นคำตอบในตัวเองได้ แม้จะน่าเห็นใจเรื่องสภาพความพร้อมของทีม แต่อย่างน้อยแนวทางการเล่นของทีมชุดนี้ที่อยากจะได้เห็น จนจบทัวร์นาเมนต์ก็ยังไม่เห็นถึงความชัดเจน หรือเรื่องการเลือกนักเตะลงสนามที่บางครั้งก็ขัดใจแฟนบอลเหลือเกิน

ความยอดเยี่ยมของ ทีมชาติเวียดนาม ในศึก เอเชียน คัพ U-23
หากดู 4 คะแนนที่เก็บมาได้ของ ทีมชาติไทย ถือว่าไม่ใช่แต้มที่ขี้เหร่เท่าไหร่ เมื่อจำแนกเป็นแต่ละเกม เริ่มต้นเสมอกับ เวียดนาม 2-2, ถล่มเอาชนะ มาเลเซีย 3-0 และปิดท้ายแพ้ให้กับ เกาหลีใต้ 1-0 เกมที่มีผลต่อการตกรอบครั้งนี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นเกมแรกที่เสมอกับ เวียดนาม ซึ่งว่ากันตามตรง ณ เวลานี้ “นักรบดาวทอง” กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม พวกเขายกระดับขึ้นมาใกลเคียงกับ ไทย มากขึ้นเรื่อยๆ การที่เสมอกันไปในเกมแรกที่ลงสนามหลังได้ลงซ้อมเพียงวันเดียวเป็นผลสกอร์ที่พอรับได้
ทว่าที่ต้องชื่นชมคือความยอดเยี่ยมของ เวียดนาม โดยเฉพาะเกมที่พวกเขาสามารถยันเสมอแบ่งคะแนนมาจากทีมระดับท็อปของทวีปเอเชียอย่าง เกาหลีใต้ มาได้ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมมีข้อได้เปรียบ และผลักภาระมาให้ทัพ “ช้างศึก” บังคับให้ต้องมีคะแนนกับ เกาหลีใต้ ในเกมสุดท้าย และอย่างที่ทราบว่าไทยไม่สามารถรอดพ้นจากความพ่ายแพ้มาได้ ดังนั้นต้องบอกว่าเราทำตัวเองให้ตกรอบแค่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนต้องปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของทีมชาติเวียดนามรุ่นนี้กันด้วยครับ
ทั้งหมดคือสาเหตุที่มองเห็น หลังจาก “ช้างศึกจูเนียร์” พุ่งชนกับความผิดหวังในระดับเอเชียอีกครั้ง มีปัญหาหลายอย่างที่สามารถแก้ไขได้ หากอยากเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อยู่ที่ว่าสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยรู้ตัวเองหรือยัง ว่าสิ่งที่ควรแก้ไขเริ่มต้นจากตัวเอง